ReadyPlanet.com


เผยโฉม Ford Everest WILDTRAK ขุมพลังดีเซล V6 3.0 ลิตรใหม่ ดุดันไม่เกรงใจ Ranger


   เผยโฉม Ford Everest WILDTRAK ขุมพลังดีเซล V6 3.0 ลิตรใหม่ ดุดันไม่เกรงใจ Ranger

 

   Ford Everest Wildtrak 2023 ใหม่ ถูกเผยโฉมครั้งแรกในโลกที่ประเทศนิวซีแลนด์ ตกแต่งภายนอกและภายในสไตล์ดุดันเช่นเดียวกับ Ranger Wildtrak พร้อมขุมพลังดีเซล V6 ขนาด 3.0 ลิตร มีกำหนดวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในเดือนกรกฏาคม 2566 นี้

 

 

     Ford New Zealand เผยโฉม Everest Wildtrak ใหม่ ก่อนจะถูกวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในช่วงกลางปีนี้ โดยถูกวางตำแหน่งไว้กึ่งกลางระหว่างรุ่น Sport และ Platinum ที่วางจำหน่ายในปัจจุบัน ตกแต่งภายนอกและภายในเน้นความสปอร์ตบึกบึนเช่นเดียวกับ Ranger Wildtrak ตั้งเป้าจับกลุ่มลูกค้าที่มองหารถเอสยูวีที่สะท้อนความเป็นออฟโรด เหมาะสำหรับการใช้งานในรูปแบบครอบครัวมากยิ่งขึ้น

     ภายนอกของ Ford Everest Wildtrak ถูกตกแต่งเพิ่มความบึกบึนด้วยกระจังหน้าและกันชนหน้าดีไซน์เฉพาะรุ่น พร้อมด้วยชุดแต่งสีเทา Bolder Grey ไม่ว่าจะเป็น H-Bar (บริเวณกระจังหน้า), ซุ้มล้อ, ช่องระบายอากาศด้านข้าง, กรอบกระจังหน้า และฝาครอบกระจกมองข้าง เสริมด้วยล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว ที่ถูกตกแต่งด้วยสีเทา Bolder Grey เช่นเดียวกัน ทั้งยังเป็นครั้งแรกใน Everest ที่สามารถเลือกตัวถังสีเหลือง Luxe Yellow ซึ่งเป็นสีพิเศษที่มีเฉพาะรุ่น Wildtrak เท่านั้น

 

 

 

 

     นอกจากนี้ Everest Wildtrak ยังมีการเสริมวัสดุสีเงินบริเวณบันไดข้าง พร้อมด้วยราวหลังคาทำจากวัสดุอัลลอยเพื่อเพิ่มความอเนกประสงค์และช่วยให้ตัวรถดูพร้อมสำหรับลุยมากยิ่งขึ้น ทั้งยังประดับด้วยสัญลักษณ์ Wildtrak บริเวณประตูคู่หน้า, ประตูท้าย และฝากระโปรงหน้า เพื่อความโดดเด่นเหนือกว่ารุ่นอื่นๆ

     ภายในห้องโดยสารถูกตกแต่งด้วยโทนสีดำเพื่อเพิ่มความสปอร์ต ติดตั้งเบาะนั่งหุ้มหนังสีดำ Ebony สลับหนังกลับ Miko ตกแต่งด้วยตะเข็บสีส้ม Cyber Orange พร้อมทั้งสลักโลโก้ Wildtrak ไว้บนพนักพิง โดยที่ตะเข็บสีส้มดังกล่าวยังถูกนำไปตกแต่งทั้งบริเวณที่วางแขน, แผงคอนโซลหน้า, แผงประตู และคันเกียร์ e-shifter อีกด้วย ขณะที่เบาะนั่งฝั่งผู้ขับขี่สามารถปรับไฟฟ้าได้ 10 ทิศทาง ฝั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้าได้ 8 ทิศทาง พร้อมฟังก์ชันเบาะอุ่นและพัดลมระบายอากาศ

 

 

     Ford Everest Wildtrak ถูกติดตั้งมาตรวัดแบบดิจิทัลขนาด 12.4 นิ้ว ควบคู่ไปกับหน้าจออินโฟเทนเมนท์ SYNC 4A แบบสัมผัสขนาด 12 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย ขับกำลังเสียงผ่านลำโพง 10 ตำแหน่ง และมีที่ชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สายเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน

      ด้านขุมพลังของ Ford Everest Wildtrak ในนิวซีแลนด์จะถูกติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ V6 ความจุ 3.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 250 แรงม้า ที่ 3,250 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 600 นิวตัน-เมตร ที่ 1,750 - 2,250 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบ Full-time 4WD

อ้างอิงข่าวรถยนต์



ผู้ตั้งกระทู้ asd :: วันที่ลงประกาศ 2023-01-22 11:29:05


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล