ล้อแม็ก หรือ ล้ออัลลอย มักเป็นตัวเลือกแรกๆ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการตกแต่งรถให้มีสไตล์เป็นของตัวเอง เพราะนอกจากจะช่วยให้รถดูโดดเด่นยิ่งขึ้นแล้ว ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนนได้อีกทางหนึ่งด้วย แต่ทราบหรือไม่ว่าการเปลี่ยนล้อแม็กใหญ่ขึ้นกว่าของเดิมติดรถนั้น ยังส่งผลเสีย 5 ข้อที่ต้องคำนึงควบคู่กันไปด้วย จะมีอะไรบ้างนั้นไปดูกันเลย

1. ช่วงล่างกระด้างขึ้น

      หากเปลี่ยนล้อให้มีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าของเดิมติดรถนั้น ก็จำเป็นต้องเปลี่ยนยางที่มีขนาดแก้มยางเตี้ยลง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหายางติดซุ้มล้อ ข้อดีคือจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเข้าโค้ง การโคลงตัวลดน้อยลง จึงสามารถเข้าโค้งด้วยความเร็วที่สูงกว่า แต่ก็แลกมาด้วยการซับแรงกระแทกได้น้อยกว่า ทำให้รู้สึกช่วงล่างมีความแข็งกระด้างมากขึ้น โดยเฉพาะเวลาที่ตกหลุมหรือขับผ่านผิวทางขรุขระ

2. ไมล์เพี้ยนไปจากเดิม

      การเปลี่ยนล้อและยางให้มีขนาดใหญ่ขึ้น จะทำให้ขนาดวงรอบของยางเปลี่ยนไป ส่งผลให้เข็มไมล์เพี้ยนไปจากปกติ ซึ่งกรณีเส้นรอบวงยางมีขนาดใหญ่ขึ้น ก็จะส่งผลให้เข็มความเร็วขึ้นช้ากว่าความเป็นจริง ในทางกลับกัน หากรอบวงยางมีขนาดเล็กลง ก็จะทำให้เข็มความเร็วขึ้นสูงกว่าปกตินั่นเอง

      อย่างไรก็ดี หากเป็นการเปลี่ยนยางที่มีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิมเพียงเล็กน้อย มักจะไปชดเชยกับไมล์ของตัวรถที่มักจะถูกตั้งค่าให้อ่อนกว่าความเป็นจริงอยู่แล้ว ส่งผลให้ความเร็วที่แสดงบนหน้าปัดเป็นความเร็วที่แท้จริงที่รถกำลังเคลื่อนที่อยู่ในขณะนั้น

3. อัตราเร่งช้าลง

      การเปลี่ยนยางให้มีขนาดรอบวงและหน้ายางกว้างขึ้น จะทำให้แรงบิดของเครื่องยนต์ไปกระทำต่อการหมุนของล้อได้ลำบากขึ้น ส่งผลให้การเร่งออกตัวทำได้ช้ากว่าเมื่อเทียบกับล้อเดิมติดโรงงาน นอกจากนี้ หน้ายางที่กว้างขึ้นแม้จะช่วยเพิ่มพื้นที่ในการยึดเกาะถนน แต่ก็ส่งผลให้รถมีอัตราสิ้นเปลืองในเมืองที่แย่ลงกว่าเดิมได้ เนื่องจากรถต้องใช้พละกำลังมากกว่าในการเร่งออกตัว

4. คุณภาพล้อและยางอาจด้อยกว่าของเดิมติดรถ

      กรณีเปลี่ยนล้อแม็กโดยเน้นราคาถูกเป็นหลัก ก็มักจะลงเอยกับล้อที่ด้อยคุณภาพในเรื่องของความแข็งแรง ซึ่งถือว่าเป็นอันตรายอย่างยิ่งในการขับขี่ โดยเฉพาะเมื่อรถตกหลุมอย่างรุนแรง หรือประสบเหตุที่ทำให้ต้องปีนฟุตบาทด้วยความเร็วสูง อาจทำให้ล้อแตกหักจนทำให้เกิดการเสียหลักและประสบอุบัติเหตุได้

      เช่นเดียวกับการเปลี่ยนยางไปใช้ผู้ผลิตที่เน้นทำยางราคาประหยัดออกมาขาย ก็มักต้องแลกกับประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนนของยางที่น้อยกว่า โดยเฉพาะการเปลี่ยนไปใช้ยางซิ่งที่มีดอกยางถูกออกแบบมาสำหรับถนนแห้งเป็นหลัก ก็จะทำให้ประสิทธิภาพในการรีดน้ำด้อยลง เกิดเป็นอาการเหินน้ำขณะฝนตกจนทำให้รถเสียหลักได้ง่ายมากขึ้น

5. ค่าบำรุงรักษาสูงกว่า

      ยางที่มีขนาดใหญ่กว่า ก็จะมีราคาสูงกว่าตามไปด้วย เจ้าของรถจึงจำเป็นต้องควักกระเป๋าจ่ายเงินมากกว่าเมื่อถึงเวลาเปลี่ยนยาง นอกจากนี้ ยางที่มีแก้มเตี้ยยังเสี่ยงต่อการฉีกได้ง่ายกว่าเมื่อตกหลุมหรือกระแทกอย่างรุนแรง ซึ่งนอกจากจะทำให้เกิดอันตรายต่อการขับขี่แล้ว ยังอาจทำให้เจ้าของรถต้องเสียเงินโดยใช่เหตุอีกด้วย

อ้างอิงข่าวรถยนต์