ReadyPlanet.com


ปริมาณของ “เหงื่อ” บอกความแข็งแรงของสุขภาพเราได้ ด้วยอากาศที่ร้อนอบอ้าวแบบนี้ คนไทยและชาวต่างชาติท


  ปริมาณของ “เหงื่อ” บอกความแข็งแรงของสุขภาพเราได้

ด้วยอากาศที่ร้อนอบอ้าวแบบนี้ คนไทยและชาวต่างชาติที่เดินกันอยู่ริมถนนก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องร่างกายท่วมเหงื่อกันไปตั้งแต่หัวจรดเท้า บางวันแค่อาบน้ำเสร็จไม่กี่นาทีก็พบว่าแผ่นหลังของตัวเองก็ชุ่มไปด้วยเหงื่ออีกครั้ง หรือแม้กระทั่งเดินออกไปทานข้าวนอกบ้านแปบเดียว เสื้อก็เปียกชุ่มราวกับเล่นน้ำสงกรานต์มา

อย่างไรก็ตาม เคยสงสัยกันบ้างไหมว่าทำไมบางคนถึงมีเหงื่อน้อย-มากกว่าคนอื่น แล้วแบบไหนที่เรียกว่าผิดปกติ

 

ทำไมเราต้องมีเหงื่อ?

แม้ว่าเหงื่อจะทำให้เรามีบุคลิกที่ไม่ดี แต่เหงื่อก็มีประโยชน์ต่อร่างกายในแง่ของการเป็นกลไกอย่างหนึ่งในการขับความร้อนของร่างกายออกมาทางผิวหนัง ผ่านเหงื่อเม็ดเล็กๆ เหล่านี้ที่ช่วยลดอุณหภูมิของร่างกายเราให้เป็นปกติได้อย่างรวดเร็ว ดังจะเห็นได้จากคนที่มีอาการไข้สูง หากผู้ป่วยสามารถระบายความร้อนออกมาทางผิวหนังผ่านเหงื่อได้ จะพบว่าอาการไข้ลดลงอย่างรวดเร็ว รวมไปถึงนักกีฬาที่ใช้พลังงานมากๆ ทำให้ร่างกายเต็มไปด้วยความร้อน การมีเหงื่อออกมาตามร่างกายส่วนต่าง ก็เป็นการช่วยปรับอุณหภูมิในร่างกายให้เป็นปกติ ไม่ให้ร่างกายร้อนจัดจนเป็นอันตรายได้

 

ทำไมคนเราถึงมีเหงื่ออกมาก-น้อยไม่เท่ากัน

เรื่องของปริมาณเหงื่อ อาจจะขึ้นอยู่กับกรรมพันธุ์ส่วนหนึ่ง แต่ก็เป็นเพียงส่วนเล็ก จริงๆ แล้วมาจากสุขภาพของแต่ละคนมากกว่า อาจจะเห็นได้ว่าคนที่ออกกำลังกายอยู่เป็นประจำ จะมีเหงื่ออกง่ายกว่าคนที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย เพราะร่างกายสามารถปรับอุณหภูมิของร่างกายโดยการขับเหงื่อออกมาในเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งก็ช่วยให้ร่างกายไม่ร้อนจัดจนเกินไป และมีแรงออกกำลังกายต่อไปได้อีก ในขณะที่คนที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย แล้วยังไม่สามารถขับเหงื่อออกมาได้ทันท่วงที หรือขับเหงื่อออกมาได้มากเพียงพอ อาจจะเหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย และอาจมีความเสี่ยงหน้ามืด เป็นลม จากความร้อนภายในร่างกายที่ไม่ได้รับการขับออกมาผ่านเหงื่อตามรูขุมขน

 

เหงื่อออกมากเกินไป

ในบรรดาอาการของเหงื่อออก มีกลุ่มคนจำนวนหนึ่งที่ประสบกับภาวะเหงื่อออกมากเกินไป (hyperhidrosis) โดยเฉพาะตามรักแร้ ข้อพับต่างๆ ฝ่ามือ ฝ่าเท้า ใต้ราวนม เป็นต้น หากจะถามว่าเหงื่อออกมากแค่ไหนถึงเรียกว่ามากเกินไป มากผิดปกติ คือมือเปียกมากชนิดที่จับปากกาดินสอไม่ได้ รักแร้ ชั้นคอเปียกมากจนทำให้เสื้อผ้าเปียกโชกเหมือนโดนสาดน้ำ หรือถุงมือถุงเท้าเปียกชื้นอยู่ตลอดเวลา ภาวะนี้ถือว่าเป็นความผิดปกติของประสาทอัตโนมัติเกิดอาการลัดวงจร จึงมีทางแก้โดยการผ่าตัด หรือฉีดโบท็อกซ์เฉพาะที่

อย่างไรก็ตาม การฉีดโบท็อกซ์เป็นวิธีแก้เพียงชั่วคราว ที่จะลดอาการเหงื่อออกได้เพียง 3-6 เดือน และการผ่าตัดก็อาจส่งผลข้างเคียงโดยทำให้อวัยวะส่วนอื่นที่ไม่ได้ผ่าตัด มีปริมาณของเหงื่อมากกว่าเดิม เช่น ผ่าจัดลดเหงื่อที่รักแร้ อาจมีเหงื่อออกฝ่ามือฝ่าเท้ามากขึ้น เป็นต้น

 

เหงื่อออกน้อยเกินไป

ภาวะเหงื่อออกน้อย (hypohidrosis หรือ anhidrosis) ฟังดูเหมือนจะน่าอิจฉา แต่จริงๆ แล้วแม้ว่าจะดูไม่เสียบุคลิกสักเท่าไร แต่การที่ต่อมเหงื่อไม่ทำงาน หรือทำงานผิดปกติ อาจทำให้ร่างกายของคุณไม่สามารถปรับอุณหภูมิจากภายในได้อย่างอัตโนมัติ ซึ่งจะก่อให้เกิดอันตรายตามมาทั้งในเรื่องของอาการไข้ และระดับความดันโลหิตที่อาจสูงขึ้นจนเป็นอันตรายต่อร่างกายได้ เป็นต้น

ภาวะเหงื่อออกน้อย มีด้วยกันหลายสาเหตุ โดยอาจจะเป็นผลข้างเคียงจากโรคต่างๆ อาทิ เบาหวาน ติดแอลกอฮอล์เรื้อรัง พาร์กินสัน หรือแม้กระทั่งผู้ป่วยโรคสะเก็ดเงิน หรือคนที่มีผดผื่นจากอากาศร้อน ก็อาจมีส่วนที่ทำให้ต่อมเหงื่อทำงานผิดปกติไปได้

 

เหงื่อ สัญญาณบอกสุขภาพ

นอกจากคนที่มีเหงื่อออกง่าย จะหมายถึงคนที่ออกกำลังกายเป็นประจำแล้ว ยังอาจหมายถึงคนที่มีความเสี่ยงเป็นไทรอยด์เป็นพิษ เพราะนอกจากน้ำหนักลง หงุดหงิดง่าย ใจสั่นแล้ว ยังมีอีกหนึ่งอาการเด่น คือ เหงื่อออกฝ่ามือ ดังนั้นหากใครมีอาการดังกล่าว สามารถไปให้หมอเช็กร่างกายอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อความแน่ใจได้

แต่ถึงกระนั้น คนที่เจ้าเนื้อ มีปริมาณไขมันรอบตัวมาก เก็บพลังงานเอาไว้ในตัวได้มาก ร่างกายก็อาจจะสะสมความร้อนความอบอุ่นเอาไว้ในร่างกายไว้มาก จนเมื่ออยู่ในอากาศร้อนๆ ร่างกายก็พยายามขับความร้อนออกมาทางเหงื่อได้ง่ายเช่นกัน ดังนั้นคนเจ้าเนื้อก็มักจะถูกทักว่าเป็นคนขี้ร้อน เหงื่อออกง่ายนั่นเอง

 

ปัญหาของเหงื่อ ที่มาพร้อม “กลิ่น”

จริงๆ แล้วนอกจากความเปียกแฉะที่ทำให้น่ารำคาญใจ และเสียบุคลิกภาพแล้ว สิ่งที่แย่กว่าน่าจะเป็นเรื่องของกลิ่นไม่พึงประสงค์ ที่แต่ละคนอาจจะมีกลิ่นฉุนมากฉุนน้อยไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆ อย่าง เช่น ความสะอาด อาหารการกิน ประเภทของเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดกลิ่น เป็นต้น และเหงื่อที่ทำให้เกิดกลิ่นตัวแรงๆ นอกจากจะมาจากสภาวะอากาศที่ร้อน และอับชื้นแล้ว ยังอาจเป็นกลิ่นที่มาจากเหงื่อที่เกิดขึ้นจากความเครียด ความตื่นตกใจ กังวลใจ เหมือนที่หลายคนตื่นเต้นแล้วเหงื่อแตกพลั่กๆ โดยเฉพาะที่รักแร้ และขาหนีบ เหงื่อเหล่านั้นมักมีกลิ่นแรงกว่าเหงื่อปกติ เพราะจะเป็นเหงื่อที่เป็นการรวมตัวของกรดไขมัน และโปรตีน ที่เป็นแหล่งเพาะเชื้อแบคทีเรียชนิดต่างๆ ได้เป็นอย่างดี

 

วิธีลดเหงื่อ

วิธีลดเหงื่อง่ายๆ คือการใช้ผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในกลุ่มของ anti-perspirant ซึ่งเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ช่วยระงับเหงื่อนั่นเอง บางผลิตภัณฑ์อาจมีทั้ง anti-perspirant ที่ช่วยลดเหงื่อ และ deodorant ที่ช่วยระงับกลิ่นด้วย หากผลิตภัณฑ์ที่ใช้ตามท้องตลาด ไม่มีตัวไหนที่ช่วยลดเหงื่อได้เลยจริงๆ อาจจะต้องลองมองหาผลิตภัณฑ์ที่มีสาร “อะลูมีเนียมคลอไรด์” ที่ช่วยเข้าไปปิดกั้นท่อระบายเหงื่อในรูขุมขน จึงช่วยชะลอ และยับยั้งการหลั่งของเหงื่อให้ออกมาน้อยลง จึงเป็นการลดปัญหาเหงื่อ และกลิ่นที่อาจตามาได้ ผลิตภัณฑ์นี้อาจสอบถามได้ที่เภสัชกรตามร้านขายยา หรือสอบถามแพทย์โดยตรงได้

นอกจากนี้การลดน้ำหนัก เพื่อลดความเจ้าเนื้อ ชั้นพุง ขาเบียดขณะเดิน จะช่วยลดความอับของส่วนต่างๆ ในร่างกาย ลดการเกิดเหงื่อและกลิ่นได้ และควรเลือกเสื้อผ้าที่มีขนาดไม่เล็กจนรัดรูปร่างเกินไป ไม่รั้งแขนจนทำให้รักแร้อับชื้น ไม่รั้งเป้ารั้งขาหนีบจนทำให้อากาศไม่ถ่ายเท พกกระดาษเปียกทำความสะอาดร่างกายตามจุดที่มีเหงื่อออกระหว่างวัน หรือจะเลือกวิธีผ่าตัด หรือฉีดโบท็อกซ์ก็ได้หากมีความสนใจ ตาควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนเข้ารับการรักษาทุกครั้ง

ขอขอบคุณ:  ดูแลสุขภาพ



ผู้ตั้งกระทู้ สิงโต :: วันที่ลงประกาศ 2022-12-04 15:17:58


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล