ReadyPlanet.com


All-new Toyota AGYA 2023 ใหม่ ขุมพลังเบนซิน 1.2 ลิตร เปิดตัวครั้งแรกที่อินโดฯ


   All-new Toyota AGYA 2023 ใหม่ ขุมพลังเบนซิน 1.2 ลิตร เปิดตัวครั้งแรกที่อินโดฯ

 

    All-new Toyota AGYA 2023 ใหม่ แฮ็ทช์แบ็กรุ่นเล็กพิกัดเดียวกับ Honda Brio ถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการที่ประเทศอินโดนีเซีย พร้อมขุมพลังเบนซิน 3 สูบ 1.2 ลิตร กำลังสูงสุด 88 แรงม้า อีกทั้งยังมีเวอร์ชัน GR Sport ให้เลือกด้วย

 

 

     PT Toyota-Astra Motor ประเทศอินโดนีเซียเปิดตัว All-new Toyota AGYA เจเนอเรชันที่ 2 ใหม่ โดยถือเป็นรถยนต์ประเภทอีโคคาร์ (LCGC - Low Cost Green Car) พิกัด A-segment ในตลาดอินโดนีเซีย ถูกเปิดตัวพร้อมกันถึง 2 รุ่น ทั้งรุ่น AGYA ปกติสำหรับผู้ที่กำลังมองหารถยนต์คันแรก และ AGYA GR Sport สำหรับผู้ที่ต้องการเน้นความสปอร์ตมากยิ่งขึ้น โดยที่ผ่านมา AGYA เจเนอเรชันแรกสามารถทำยอดจำหน่ายสะสมจากลูกค้าชาวอินโดฯ ได้มากกว่า 320,000 คัน

     All-new Toyota AGYA ถูกติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ ความจุ 1.2 ลิตร Dual VVT-i ให้กำลังสูงสุด 88 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 113 นิวตัน-เมตร (11.52 กก.-ม.) ที่ 4,500 รอบต่อนาที ส่งกำลังไปยังล้อคู่หน้าด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT ซึ่งถูกระบุว่าช่วยลดอัตราสิ้นเปลืองลงได้ดีเยี่ยมเมื่อเทียบกับเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีดเดิม

 

 

 

     รถรุ่นนี้ยังถูกพัฒนาขึ้นบนแพล็ตฟอร์ม DNGA (Daihatsu New Global Architecture) พร้อมช่วงล่างที่สามารถดูดซับแรงสะเทือนได้ดียิ่งขึ้น รองรับสภาพถนนของอินโดนีเซียได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งช่วงล่างด้านหลังแบบทอร์ชันบีมยังถูกปรับปรุงเพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถได้ง่ายขึ้น ควบคู่ไปกับพวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า (EPS) ที่สามารถตอบสนองการขับขี่และมีวงเลี้ยวที่แคบกว่าเดิม

     ดีไซน์ภายนอกของ Toyota AGYA ใหม่ ถูกออกแบบให้มีรูปลักษณ์ที่ “ทรงพลังและดุดัน” สะท้อนถึงความสปอร์ตได้ดียิ่งขึ้น โดยตัวถังมีความยาวตลอดคันอยู่ที่ 3,760 มม. ความกว้าง 1,665 มม. ความสูง 1,505 มม. และความยาวฐานล้อ 2,525 มม. เหมาะสำหรับการใช้งานในเมืองเป็นหลัก รวมถึงการขยายความยาวของห้องเก็บสัมภาระท้ายขึ้นอีก 610 มม. ช่วยรองรับสัมภาระได้มากกว่ารุ่นเดิม

 

13+ดูภาพทั้งหมดtoyota_agya_12

 

 

     ส่วนรุ่น GR Sport เพิ่มเติมความสปอร์ตยิ่งขึ้นด้วยชุดแต่งภายนอกรอบคัน อีกทั้งยังออกแบบให้สามารถเพิ่มดาวน์ฟอร์ซเพื่อเสถียรภาพในการขับขี่ที่ความเร็วสูงได้ ซึ่งนอกจากจะมีการปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ภายนอกให้ดูสปอร์ตขึ้นแล้วนั้น ยังมีการปรับจูนพวงมาลัยไฟฟ้า EPS และช่วงล่างที่เพิ่มประสิทธิภาพการยึดเกาะถนนมากกว่ารุ่นปกติ รวมถึงการใช้ยางแบบสปอร์ตเพื่อเพิ่มการยึดเกาะถนนให้ดียิ่งขึ้น

อ้างอิงข่าวรถยนต์



ผู้ตั้งกระทู้ asd :: วันที่ลงประกาศ 2023-02-17 09:23:39


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล