ReadyPlanet.com


3 อาหารช่วยลดน้ำหนัก แม้ไม่ได้ออกกำลังกาย 3 อาหารช่วยลดน้ำหนัก แม้ไม่ได้ออกกำลังกาย รูปร่างผอมเพ


 

3 อาหารช่วยลดน้ำหนัก แม้ไม่ได้ออกกำลังกาย

3 อาหารช่วยลดน้ำหนัก แม้ไม่ได้ออกกำลังกาย

 

 

รูปร่างผอมเพรียวเป็นที่ต้องการของทุกคน วิธีการที่คนส่วนใหญ่ทราบดีว่าจะช่วยให้ลดและควบคุมน้ำหนักได้ผลดีคือ ควบคุมการรับประทานอาหาร ออกกำลังกาย มีระบบการขับถ่ายที่ดี และนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ อย่างไรก็ดี ในยามที่ยุ่งจนไม่มีเวลาออกกำลังกาย คนญี่ปุ่นแนะนำอาหารที่ช่วยให้ผอมได้หากรับประทานเป็นประจำ มารู้จักอาหารดังกล่าวกัน

3 อาหารช่วยลดน้ำหนัก แม้ไม่ได้ออกกำลังกาย

  1. ต้นอ่อนบรอกโคลี

สารอาหารในต้นอ่อนบรอกโคลีช่วยเสริมหน้าที่การทำงานของตับ ทำให้การย่อยสลายน้ำตาลและไขมันดีขึ้นและเพิ่มอัตราการเผาผลาญพลังงาน นอกจากนี้สารซัลโฟราเฟน (Sulforaphane) ในต้นอ่อนบรอกโคลียังมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพ ช่วยชะลอความแก่ ป้องกันโรคมะเร็ง ป้องกันโรคไข้ละอองฟาง และช่วยต้านการเจริญของแบคทีเรียที่ทำให้เกิดแผลในลำไส้อย่างเฮลิโคแบคเตอร์ ไพโลไร  (Helicobacter pylori) เป็นต้น

วิธีการรับประทานเพื่อควบคุมและลดน้ำหนักทำได้โดยการรับประทานต้นอ่อนบรอกโคลีทุกวัน หรือรับประทานครั้งละ 20 กรัม ทุก 3 วัน

  1. บ๊วยดองที่ผ่านการให้ความร้อน

เมื่อให้ความร้อน บ๊วยดองจะสร้างสำคัญชื่อวานิลลิน (Vanillin) ขึ้นมา สารชนิดนี้ช่วยกระตุ้นการเผาผลาญไขมันในร่างกาย และช่วยจำกัดการบวมของเซลล์ไขมัน จึงเหมาะสำหรับคนที่อยู่ในช่วงควบคุมหรือลดน้ำหนัก โดยบ๊วยดองที่ผ่านการให้ความร้อนจะมีปริมาณสารวานิลลินเพิ่มขึ้นถึง 20 เท่า วิธีการให้ความร้อนบ๊วยดองทำได้ง่ายเพียงนำเข้าไมโครเวฟที่ 500 วัตต์ เป็นเวลา 1 นาที ปริมาณสารวานิลลินจะไม่ลดลงแม้ว่าบ๊วยดองจะเย็นลงหรือแช่ตู้เย็นไว้ ดังนั้นจึงสามารถเตรียมเก็บไว้รับประทานได้หลายวัน

วิธีการรับประทานเพื่อให้มีประสิทธิภาพในการควบคุมและลดน้ำหนักคือ รับประทานวันละ 3 เม็ด และไม่ควรรับประทานมากกว่านี้ เพราะบ๊วยดองมีรสเค็มหารรับประทานมากเกินไปอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้

  1. เกรปฟรุต

วิตามินบี 1 ที่มีมากในเกรปฟรุตจะช่วยป้องกันไม่ให้น้ำตาลที่รับประทานเข้าไปเปลี่ยนเป็นไขมัน อีกทั้งเพคตินซึ่งเป็นเส้นใยอาหารละลายน้ำได้ที่มีมากในเกรปฟรุตจะกดการดูดซึมของคอเลสเตอรอลและไขมันเข้าสู่ร่างกาย นอกจากนี้สารให้กลิ่นหอมในผลไม้ชนิดนี้ ได้แก่ ลิโมนีน (Limonene) และนูทคาโทน (Nootkatone) จะช่วยในการลดความอยากอาหาร เสริมการไหลเวียนเลือด และเพิ่มอัตราการเผาผลาญพลังงาน นอกจากประโยชน์ในการควบคุมน้ำหนักแล้วเกรปฟรุตยังช่วยให้ผิวพรรณสวยงาม ช่วยให้การขับถ่ายดี และช่วยขับของเสียออกจากร่างกาย

วิธีการรับประทานเพื่อช่วยให้ผอมทำได้โดยการรับประทานเกรปฟรุตวันละ 1 ผล โดยแบ่งรับประทานก่อนอาหารทั้งสามมื้อ ทั้งนี้การดมกลิ่นของของเกรป ฟรุตก่อนอาหารจะช่วยลดความอยากอาหารได้ดี

หากรู้สึกว่ายุ่งจนไม่มีเวลาออกกำลังกายแล้วกลัวอ้วน ก็ลองเสริมอาหารดังกล่าวในเมนูอาหารประจำวันดู

ขอขอบคุณ:ดูแลสุขภาพ



ผู้ตั้งกระทู้ ออน :: วันที่ลงประกาศ 2022-09-05 11:23:07


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (4339536)

 

"เพื่อไทย" ตั้ง "พานทองแท้-แพทอง

ผู้แสดงความคิดเห็น กันยา วันที่ตอบ 2022-11-04 16:13:59



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล