สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมมีโอกาสได้เดินทางไปร่วมชมการแข่งขัน Thailand Super Series หรือ TSS ที่บุรีรัมย์ นอกจากเดินทางไปถ่ายทำรายการ World of Speed (PPTV) ในอีเวนต์นี้แล้ว สิ่งที่อยากไปเห็นกับตา ก็คือรถแข่งที่ใช้พลังงานสังเคราะห์หรือ E-fuel ลงสนามแข่งรายการในประเทศอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกครับ

   ปลายปีที่แล้ว ผมเคยเขียนถึงโตโยต้า ที่นำรถแข่งที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง E-Fuel ที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน กับรถแข่งที่ใช้ก๊าซไฮโดรเจน อย่างละ 1 คัน มาลงสนามในรายการเอ็นดูรานซ์ 25 ชั่วโมง มาครั้งหนึ่งแล้ว ซึ่งในครั้งนั้นถือเป็นการชิมลางครับ แต่มาปีนี้ Toyota Gazoo Racing Team Thailand ส่งรถแข่ง E-fuel แบบเต็มฤดูกาลเป็นครั้งแรกใน TSS

     ก่อนอื่นขออนุญาตทำความรู้จักก่อนว่า E-Fuel คืออะไร สรุปแบบรวบรัดก็คือ Electrofuels เป็นน้ำมันเชื้อเพลิงสังเคราะห์ ที่ไม่ต้องพึ่งพาน้ำมันดิบจากใต้ดินในการผลิต แต่มีกรรมวิธีผลิตขึ้นจากการสังเคราะห์คาร์บอนไดออกไซด์ (ที่มีอยู่ในสภาพแวดล้อม) และไฮโดรเจน ซึ่งปัจจุบันค่ายรถหลายเจ้ากำลังพัฒนาเพื่อขึ้นมาเป็นเชื้อเพลิงในอนาคตควบคู่ไปกับการพัฒนารถ EV

    ส่วนที่เรียกเชื้อเพลิงชนิดนี้เป็นแบบเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon neutrality) นั้น หลักการของมันก็ต้องบอกว่า มันไม่ได้ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์นะครับ แต่ให้อธิบายง่าย ๆ คือ น้ำมันชนิดนี้ใช้คาร์บอนไดออกไซด์จากสิ่งแวดล้อมในการผลิต จึงทำให้มลพิษที่ปล่อยออกหลังการเผาไหม้มีปริมาณที่เท่ากับคาร์บอนไดออกไซด์ที่เอาออกจากอากาศไปเพื่อทำน้ำมันในตอนแรกนั่นเอง

     อย่างไรก็ดี กระบวนการสังเคราะห์น้ำมันชนิดนี้ยังอยู่ในยุคเริ่มต้นและมีต้นทุนสูงมากกกก เพราะการจะเคลมได้ว่าเป็นกลางทางคาร์บอนจริง ๆ ต้องทำให้ได้ตลอดขั้นตอนการผลิตด้วย โดยเฉพาะกระบวนการที่ต้องใช้พลังงาน ทั้งไฟฟ้าและพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) เพราะหากใช้ไฟฟ้าจากแหล่งไฟฟ้าถ่านหินปกติ ก็ไม่สามารถเคลมได้ว่าเป็นกลางทางคาร์บอนได้เช่นกัน

     กลับมาที่ทีมแข่ง Toyota Gazoo Racing Team Thailand ที่ในปีนี้ส่ง Yaris E-Fuel Carbon Neutral เบอร์ 19 ที่ขับโดย ณ ดล วัฒนธรรม แชมป์จาก Toyota Gazoo Racing Motorsport ปี 2022 ลงแข่งขันในรุ่น Super Compact ซึ่งเป็นครั้งแรกที่โตโยต้าส่งแข่งขัน TSS แบบเต็มฤดูกาล ซึ่งแว่ว ๆ มาว่ารถคันนี้จะลงแข่งในรายการ Toyota Gazoo Racing Motorsport 2023 ด้วยเช่นกันครับ

     ผมเองมีโอกาสได้พูดคุยกับ ณ ดล ผู้ที่ขับรถยาริสเบอร์ 19 เจ้าตัวบอกว่าฟิลลิ่งและความรู้สึกในการขับ แทบจะไม่ต่างจากการใช้เชื้อเพลิงปกติ (E20) เพียงแต่ว่านี่คือสนามแรกที่รถคันนี้เพิ่งจะลงแทร็ก ทำให้ยังมีบางจุดที่ต้องปรับแก้ และพัฒนากันต่อกับทีมงาน งานนี้เห็น “อาร์โต้” สุทธิพงศ์ สมิตชาติ บอสใหญ่ นั่งประกบที่พิตเพื่ออัปเดตข้อมูลต่าง ๆ ตั้งแต่รอบฝึกซ้อมเลยครับ

     ส่วนผลการแข่งขันรถแข่งเบอร์ 19 ที่ออกสตาร์ตจากพิตท่ามกลางอุณหภูมิที่ร้อนระอุ สามารถไต่อันดับขึ้นมาจบอันดับ 11 โอเวอร์ออล ได้ในเรซที่ 1 และจบอันดับ 12 ในเรซที่ 2 ครับ ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มของการร่วมกันพัฒนารถแข่งเชื้อเพลิง E-Fuel ของทั้งนักขับและทีมแข่ง รวมถึงการต่อยอดไปสู่การพัฒนารถบ้านในอนาคตด้วยเช่นเดียวกัน

     มาถึงสิ่งที่หลายคนอยากรู้ที่สุด คือ ไอ้เจ้าน้ำมันเชื้อเพลิง E-Fuel ที่เป็นกลางทางคาร์บอนนี้ราคาลิตรละเท่าไร หากเป็นในบ้านเราแน่นอนว่ายังไม่มีการนำเข้ามาขายทั่วไปครับ ที่ใช้สนามแข่งเป็นการนำเข้ามาจากต่างประเทศ ซึ่งราคาในต่างประเทศ เว็บไซต์ motortrend.com รายงานว่าปัจุบันราคาในเยอรมนีอยู่ที่ 10 ยูโรต่อลิตรหรือลิตรละ 376 บาท!

     ปฏิเสธไม่ได้ครับว่า E-Fuel คือเทคโนโลยีใหม่ที่หลายฝ่ายกำลังพัฒนาและอยู่ในยุคเริ่มต้น จึงทำให้ต้นทุนยังแพงอยู่มาก แต่หากมีเจ้าไหนที่สามารถจับจุดและลดต้นทุนการผลิตได้ รับรองได้เลยว่าอุตสาหกรรมรถ EV ที่ว่ากันว่านอนมา ถึงคราวต้องสะเทือนแน่นอนครับ

อ้างอิงข่าวรถยนต์